วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552

การทำรีเอ็นจิเนียริ่งสำนักงาน

การรีเอ็นจิเนียริ่งองค์การ ไมเคิล แฮมเมอร์ ได้เขียนหนังสือชื่อ Reengineering The Corporation ในปี 1993 ริเอ็นจิเนียริ่ง หรือ การรื้อปรับระบบ มีความหมายหลายความหมาย ดังนี้

  • หมายถึง การเริ่มต้นกันใหม่โดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต จนถึงปัจจุบัน การทิ้งกระบวนการที่ทำมายาวนาน แล้วหากระบวนการใหม่ที่ทันสมัย ตามที่สภาพงานในขณะนั้นต้องการ
  • หมายถึง การพิจารณาพื้นฐานและการออกแบบกระบวนการทางธุรกิจอีกครั้ง อย่างถอนรากถอนโคน (Radical redesign) เพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ติดอยู่กับกฎข้อบังคับเดิม
  • หมายถึง รูปแบบการนำกระบวนการบริหารจัดการใหม่ มาแทนกระบวนการที่ใช้อยู่เดิมอย่างถอนรากถอนโคน เป็นการคิดค้นหากระบวนการดำเนินกิจกรรมขึ้นมาใหม่

การรีเอ็นจิเนียริ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งองค์กร ทั้งการตลาด การผลิต บุคลากร การบริการและทุกระบบ ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพแก่องค์การ ซึ่งมีหลักการในการรีเอ็นจิเนียริ่ง 3 ประการ คือ

  1. กระบวนการใดที่มีปัญหาหนักมากที่สุด
  2. กระบวนการใดส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทมากที่สุด
  3. ความเป็นไปได้ที่จะประสบผู้สำเร็จในการเอ็นจิเนียริ่งกระบวนการนั้น

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในการทำรีเอ็นจิเนียริ่ง

  1. ใช้กลยุทธ์เป็นตัวนำ
  2. ต้องอาศัยริเริ่มและการบังคับบัญชา โดยผู้บริหารระดับสูง เพราะการรีเอ็นจิเนียริ่ง เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายหน่วยงาน
  3. สร้างบรรยากาศของความเร่งด่วน
  4. การออกแบบกระบวนการจากภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ
  5. การดำเนินการกับที่ปรึกษา ควรให้เข้ามาร่วมงานตั้งแต่ต้นจนจบ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญในองค์การเพื่อถ่ายทอดให้ถึงระดับล่าง
  6. การผนวกกิจกรรมของระดับบนสู่ระดับล่างกับกิจกรรมของระดับล่างขึ้นสู่ระดับบนเข้าด้วยกัน

แหล่งที่มา : http://www.itie.org/eqi/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=93821

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประเทศอังกฤษ




Buckingham Palace เป็นพระราชวังที่สำคัญของอังกฤษที่สามารถเปิดให้คนเข้าชมได้ ซึ่งภายในพระราชวังจะมีห้องต่างๆ ที่น่าสนใจที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี อาทิ ห้องบังลังก์ของกษัตริย์ ห้องแกลลอรี่ ห้องเสวยพระกระยาหาร ซึ่งห้องต่างๆ เหล่านี้ ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามและอลังการ นอกจากนี้ ภายในพระราชวังยังมีสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี เหมาะแก่การเดินชมวิวเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญ คือ การผลัดเปลี่ยนเวร(Changing the Guard) การผลัดเปลี่ยนเวรจะมีขึ้นที่บริเวณพระราชวังบักกิ้งแฮม โดยจะเริ่มแสดงเวลา 11.30 น . และจะใช้เวลาแสดงทั้งหมด 40 นาที แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ในวันที่มีเหตุการณ์สำคัญของเมือง การผลัดเปลี่ยนเวรอาจจะงดได้ในวันที่ฝนตก

Bigben
บิ๊กเบน ตึกสภา เวสต์มินสเตอร์ ทั้งหมดคือ สัญลักษณ์ของลอนดอนที่ไม่เคยเสื่อมความสำคัญ ตัวบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภาตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ขณะนี้กำลังขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่จึงเห็นเป็นสีทองอร่าม ไม่ดำหม่นมัวด้วยคราบเขม่าควันและการเวลาเหมือนในอดีต มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์กำลังซ่อมแซมเช่นกัน เหมือนกับสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ในบริเวณใกล้เคียงที่ทำให้การเดินข้ามถนนไปมาของนักท่องเที่ยวออกจะ ลำบากไม่ใช่

Harrods
ห้างแฮร็อดส์ (Harrods) อภิมหาเศรษฐีชาวอียิปต์ชื่อ อัลฟาเยด เป็นเจ้าของกิจการตั้งอยู่บนบรอมตันแถวๆย่าน " ไนท์บริดจ์ "(Knightsbridge) ที่ห้างแฮร็อดส์มีของขายมากมายกว่า 300 แผนก อยากจะได้อะไรข้างในมีหมด เพียงแต่ว่าจะตัดสินใจซื้อกันหรือเปล่าเทานั้น เพราะราคาข้าวของแต่ล่ะอย่างแพงหูฉี่ ในห้างมีร้านโดนัทชื่อดังอันดับ 1 ใน 10 ของโลกคือ Krispy Kream อร่อยมากขอรับประกันคุณภาพหากหาซื้ออะไรไม่ได้ ซื้อถุงก๊อปแก๊ปของห้างมาเป็นที่ระลึกก็ยังดี

London Chaina Town ( SOHO )
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ คนไทยในลอนดอนชอบไปเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า อาหารจีนเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาอย่างยิ่งมากกว่า อาหารฝรั่ง เบอร์เกอร์ แซนวิชเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้ง ยังมี ซุปเปอร์มาเก็ตของคนจีน ที่นำเข้า ของชำ ทั้ง ผัก ผลไม้ ม่าม่า และ ซอสปรุงอาหาร แม้กระทั่ง ปลาร้า ก็มี ที่นำเข้ามาจากเมืองไทยทุกวันสดมาก เป็นที่ ๆ นักเรียนไทยในลอนดอนรู้จักกัน

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประเภทของเมาส์

ประเภทของเมาส์
เมาส์ (Mouse) เมาส์เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลอีกชนิดหนึ่งใช้สำหรับเลือกคำสั่งหรือสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนจอภาพโดยที่เมาส์จะแบ่งได้เป็นแบบ 2 ปุ่ม และแบบ 3 ปุ่มโดยจะเพิ่มปุ่มลูกล้อหมุนได้อยู่ตรงกลาง เรียก Wheel เมาส์ ปุ่มลูกล้อนี้จะใช้สำหรับการเลื่อนจอภาพเหมือนการเลื่อน Scroll bar บางรุ่นก็สามารถกดปุ่มลูกล้อเพื่อเรียกคำสั่ง หรือโปรแกรมตามที่ Software ของเมาส์นั้นๆ จะกำหนดมา ซึ่งถ้าจะแบ่งประเภทของเมาส์สามารถ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. เมาส์แบบกลไก (Mechanical) โดยจะใช้ลูกบอลกลมๆ บรรจุอยู่ภายในตัวเมาส์ ทำหน้าที่คอยเปลี่ยนการลากเมาส์ให้เป็นการหมุนล้อกลไกภายในตัวเมาส์ เพื่อแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าและส่งมาให้ซีพียูประมวลผลต่อไป
2. เมาส์แบบใช้แสง (Optical) เป็น แบบที่ใช้แสงส่องลงไปที่พื้นแล้วสะท้อนกลับมาที่ตัวรับเพื่อวัดการเลื่อนตำแหน่ง ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ จะสามารถใช้กับพื้นผิวได้แทบทุกแบบ
และเมาส์แบ่งเป็นประเภทย่อยๆได้ ดังนี้

1. Serial Mouse เป็นเมาส์แบบดังเดิมหรือแบบเก่า จะเชื่อมต่อกับพอร์ต Com 1 Com2
2. PS/2 Mouse เป็นเมาส์แบบใหม่ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมา หัวต่อจะมี ขนาดเล้ก กว่าแบบแรกข้อดีของการใช้เมาส์แบบนี้ก็คือ จะเหลือพอร์ต
3. Track ball เป็นเมาส์อีกแบบหนึ่งคล้ายๆกับการจับเมาส์หงายขึ้นแล้วใช้มือหมุนลูกกลิ้งแทน โดยส่วนมากจะใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Note Book

4. Infrarade Mouse คล้ายๆ กับรีโมตคอนโทรลที่ควบคุมการทำงานของทีวีจะไม่มีสายเชื่อมต่อระหว่างเมาส์กับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่จะใช้แสงอินฟาเรดในการรับส่งสัญญาณแทน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นวิทยากรหรืออาจารย์สอนคอมพิวเตอร์

หรือการนำเสนอข้อมูลใดๆด้วยคอมพิวเตอร์เพราะคุณสามารถเลื่อนตัวชี้เมาส์เพื่อควบคุมการนำเสนอได้ค่อนข้างสะดวก ไม่ต้องยืนควบคุมเมาส์มราโต๊ะอย่างเดียว
5. Joy stickเป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลง / ซ้ายขวา เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์ แต่จะมีแป้นกดเพิ่มเติมมาจำนวนหนึ่งสำหรับสั่งงานพิเศษ นิยมใช้กับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์หรือควบคุมหุ่นยนต์
6. USB Mouse เป็นเมาส์ที่การใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น การทำงานจะเป็นลักษณะกับเมาส์ธรรมดา แต่จะแตกต่างกันที่หัวต่อไม่เหมือนกัน
7. Glide pointจะเป็นแผนสี่เหลี่ยมที่วางอยู่หน้าแป้นพิมพ์ สามารถใช้นิ้ววาดเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่นเดียวกับเมาส์ เหมือน
กับ Touch pad

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ระบบที่นำมาใช้ในสำนักงานอัตโนมัติ


1. การรับส่งเอกสาร การรับส่งเอกสารในองค์กร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนิน กิจการ ทำอย่างไร เอกสารจึงจะถึงเมื่อผู้รับ โดยรวดเร็ว ทำอย่างไร เมื่อผู้รับได้รับแล้ว จะดำเนินกิจกรรม และตอบกลับ ตามเอกสารนั้นทันที


2. การลงทะเบียนเอกสาร
เอกสารที่เข้ามา และส่งออก มีทั้งแบบใช้กระดาษและเป็นเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ามาแบบออนไลน์ หน่วยงานจะต้องมี ระบบรับและส่งเอกสาร เอกสารที่รับเข้ามาทุกชิ้น จะต้องมีหมายเลขรับเข้า หรือส่งออก และผู้รับผิดชอบ เพื่อความสะดวกของ ผู้ติดตามงาน เอกสารอิเล็กทรอนิกส์บางชนิด ต้องมีระบบตอบรับเป็นเอกสารแบบกระดาษ เนื่องจากเป็นผลทางกฎหมาย


3. การติดตามเอกสาร และ การดำเนินการ
การรับส่งเอกสารในองค์กร นอกจากจะต้องลงทะเบียนแล้ว ยังต้องมีการบันทึกผลการดำเนินการ ในแต่ละขั้นตอน ระบบ ติดตามเอกสาร จะต้องระบุได้ว่า ขณะนี้เอกสารที่เข้ามาในองค์กร ตามเลขที่ ที่รับเข้ามานั้น ขณะนี้อยู่ที่หน่วยงานใด ผลการดำเนินการ อยู่ในขั้นตอนใด ทุกหน่วยงานที่เอกสารผ่านไป จะต้องบันทึก วัน เวลาที่รับ และผลการดำเนินการ ณ หน่วยงานนั้น พร้อมบันทึก วัน เวลา ที่ส่งต่อ ระบบเอกสารจะดี หรือ ไม่นั้นขึ้นอยู่กับสำนึกของบุคลากรในองค์กร ระบบงานจะดีเพียงใด หากมีส่วนงานใดส่วนงานหนึ่ง ในองค์กร ละเลย ไม่ปฏิบัติตามระบบที่ออกแบบไว้ ระบบก็ล้มเหลว






4. การเรียกใช้ข้อมูล
ข้อมูลในองค์กร มีหลายระดับ เช่น ข้อมูลหน่วยงาน สินค้าและบริการ การบริการทางเทคนิค การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพื่อบริการ ลูกค้า การตอบคำถามเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ (FAQ) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยได้ทั่วไป ส่วนข้อมูลราคา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยี ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ บุคลากรเพียงบางคนเท่านั้นที่เข้ามาเรียกดูได้ ส่วนข้อมูลประเภท นโยบาย สถานภาพของหน่วยงาน ความผิดพลาด ในการดำเนินการขององค์กร จะต้องเป็นผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น จึงจะเรียกดูได้ การออกแบบระบบข้อมูล จะต้องมีเอกภาพ นั่นคือข้อมูลใด ๆ ก็ตาม จะต้องมีเพียงแหล่งเดียว ระบบงานจะต้องมีระบบ รักษาความปลอดภัยที่ดี สามารถจำแนกประเภทบุคลากรได้ บุคลากรทุกระดับจะต้องมีวินัยในการใช้ข้อมูล หากเปิดเผยข้อมูล ที่เป็นความลับขององค์กร ความเสียหายจะเกิดกับองค์กรโดยรวม



แหล่งที่มา http://itsc2506.igetweb.com/?mo=3&art=181650


วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความหมาย,ประโยชน์,เทคโนโลยีของสำนักงานอัตโนมัติ

  1. ความหมายของสำนักงานอัตโนมัติ

    การสร้างระบบที่ใช้ในการประมวลข่าวข้อมูลไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของข้อมูลที่เป็นตัวเลข รูปภาพ
    ข้อความ และเสียงที่มีระบบเป็นรูปแบบสามารถเก็บและเรียกมาใช้งานได้ตามต้องการ การบริหารข้อมูลข่าวสารสะดวกรวดเร็ว ปัจจัยที่สำคัญต่อระบบสำนักงานอัตโนมัติคือ ระบบการสื่อสาร โทรคมนาคม ซึ่งเป็นการสื่อสารเชื่อมต่อในการรวบรวมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ดังนั้นการได้เปรียบเสียเปรียบจึงวัดกันที่ใครมีข้อมูลข่าวสารเพื่อนำมาตัดสินใจได้ดีกว่า ถูกต้องกว่าทันสมัยกว่าและรวดเร็วกว่าสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation) คือ กระบวนการในการนำเทคโนโลยีมาช่วยคนในสำนักงานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นรวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ เช่น เครื่องพิมพ์ดีดชนิดต่างๆ ที่อาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีทางการสื่อสาร เช่น ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติดิจิตอล โทรสาร การสื่อสารผ่านดาวเทียม ไฟเบอร์ออฟติค ฯลฯ การนำระบบสำนักงานอัตโนมัติมาใช้จะช่วยให้องค์การได้ข้อมูลที่รวดเร็วทันต่อความต้องการ ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ลดเวลาในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันก็ลดงานด้านการจัดทำเอกสารและการจัดเก็บเอกสาร ลดปริมาณกระดาษที่ใช้ในสำนักงานให้ลดน้อยลง

    ประโยชน์ของสำนักงานอัตโนมัติ
    1. เพิ่มกำไร โดย OA ช่วยสร้าง ข้อความ และ ข้อมูล ที่ถูกต้อง และรวดเร็วยิ่งขึ้น
    2. ประหยัดแรงงาน โดย OA ช่วยสร้าง จัดเรียง จัดเก็บ เอกสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    3. ได้เปรียบคู่แข่งในเชิงพาณิชย์ ยืนหยัดในธุรกิจได้
    4. เพิ่มคุณภาพงาน ให้แก่พนักงานทุกระดับ
    5. เพิ่มประสิทธิภาพของสำนักงาน ลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน
    6. การขยายขอบเขตบริการ ทำได้อย่างทั่วถึง นำไปสู่ ระบบ OA ที่สมบูรณ์แบบได้


    เทคโนโลยีในสำนักงานอัตโนมัติ แบ่งได้เป็น 5 ลักษณะงาน คือ

    1. งานด้านการจัดการเอกสาร
    2. งานด้านการจัดการข่าวสาร
    3. งานด้านการประชุม
    4. งานด้านการสนับสนุนสำนักงาน
    5. งานด้านการสนับสนุนผู้บริหาร


    ที่มา : http://www.geocities.com/kaewoa/oa1.html